รายละเอียด

2024-06-12 15:01:16 | 420

สำนักวิทยบริการฯ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ขอเชิญชวน นักเรียนนักศึกษา อาจารย์ เจ้าหน้าที่ และประชาชนทั่วไป ร่วมกิจกรรม ตอบคำถามชิงรางวัล เนื่องใน "วันที่ 17 มิถุนายน วันต่อต้านปัญหาภัยแล้งและฝนแล้งของโลก"

ตอบคำถามชิงรางวัล >>คลิ๊ก<<

           “วันต่อต้านปัญหาภัยแล้งและฝนแล้งของโลก World Day to Combat Desertification and Drought” ตรงกับวันที่ 17 มิถุนายนของทุกปี เป็นวันที่กําหนดขึ้นเพื่อให้ประชากรทั่วโลกได้ตระหนักถึงภาวะวิกฤตของโลกที่กําลังเผชิญในปัจจุบัน โดยเฉพาะภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ความเป็นมาของวันต่อต้านปัญหาภัยแล้งและฝนแล้งของโลกเนื่องจากพบว่า ปัญหาความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของทั่วโลกถูกทําลายและกําลังอยู่ในภาวะวิกฤติซึ่งเห็นได้จากอุณหภูมิโลกสูงขึ้น หรือสภาพอากาศแปรปรวน โดยส่วนใหญ่เกิดจากการทํากิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ เช่น การตัดไม้ทําลายป่า การเผาไหม้เชื้อเพลิงต่างๆ ในภาคคมนาคมขนส่ง การอุตสาหกรรมและการผลิตไฟฟ้า รวมถึงพฤติกรรมในการดํารงชีวิตประจําวันที่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติและพลังงานอย่างสิ้นเปลือง ทั้งนี้ปัญหาภัยแล้งและฝนแล้งสร้างความเสียหายให้กับระบบนิเวศวิทยาและส่งผลกระทบต่อการดํารงชีวิตของมนุษย์โดยตรง ดังนั้นเพื่อให้มนุษย์ได้ร่วมใจกันดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้มากยิ่งขึ้น องค์การสหประชาชาติจึงประกาศให้วันที่ 17 มิถุนายนของทุกปีเป็นวันต่อต้านปัญหาภัยแล้งและฝนแล้งของโลก โดยเริ่มต้นตั้งแต่ พ.ศ. 2533 เป็นต้นมา เพื่อรณรงค์และปลูกจิตสํานึกให้ประชากรโลกตระหนักและหันกลับมาใส่ใจธรรมชาติมากขึ้น สําหรับปัญหาภัยแล้งในประเทศไทยยังคงเกิดขึ้นทุกปีและเป็นปัญหาหลัก ซึ่งมีปัจจัยที่เป็นสาเหตุทําให้เกิดภัยแล้งในปัจจุบัน คือ

1. ความต้องการใช้น้ำเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากจํานวนประชากรเพิ่มมากขึ้นทําให้มีความต้องการใช้น้ำในการดํารงชีวิตและใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ ในขณะที่แหล่งเก็บกักน้ำมีจํากัด

2. แหล่งเก็บกักน้ำตามธรรมชาติและที่สร้างขึ้นใหม่มีจํานวนน้อย ไม่เพียงพอต่อการเก็บกักน้ำซึ่งอาจเกิดจากข้อจํากัดของภูมิประเทศและการพัฒนาแหล่งน้ำที่ไม่เหมาะสม

3. การทําลายป่าต้นน้ำลําธาร เช่น การตัดไม้ทําลายป่าทําให้ไม่มีต้นไม้ที่คอยดูดซับน้ำฝนลงสู่ใต้ผิวดินและยึดดินให้มีความมั่นคงจึงทําให้ขาดแคลนน้ำที่จะถูกปล่อยออกมาสู่ลําธารและลําน้ำในช่วงฤดูแล้ง

4. การวางผังเมืองที่ไม่เหมาะสม เช่น การแบ่งพื้นที่ทํากิจกรรมต่างๆ อย่างไม่เหมาะสม หรือไม่สอดคล้องกับแหล่งน้ำ รวมถึงขาดการบริหารจัดการน้ำที่เหมาะสม

5. ผลกระทบจากปรากฏการณ์ภาวะเรือนกระจกทําให้ความร้อนสะสมอยู่ในอากาศใกล้ผิวโลกมากขึ้น ส่งผลให้อากาศร้อนกว่าปกติ

6. การขาดจิตสํานึกในการใช้น้ำและการอนุรักษ์น้ำ เช่น การใช้น้ำไม่ประหยัด และมีการบุกรุกทําลายแหล่งน้ำ เป็นต้น

           ปัญหาภัยแล้งหรือฝนแล้งยังคงเป็นปัญหาหลักที่ทั่วโลกและประเทศไทยต้องเผชิญทุกปี ทั้งนี้กรมอุตุนิยมวิทยาได้รายงานว่าใน พ.ศ. 2563 ประเทศไทยต้องเผชิญภาวะภัยแล้งที่มีความรุนแรงมากกว่าทุกปี โดยคาดการณ์ว่าปริมาณฝนจะต่ำกว่าค่าปกติ 3-5 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงประชากรส่วนใหญ่ต้องดํารงชีวิตอยู่ด้วยการอาศัยน้ำเป็นปัจจัยหลักในการเพาะปลูก เลี้ยงสัตว์และอุปโภคบริโภค ภัยแล้งเป็นภัยธรรมชาติที่มนุษย์ไม่อาจควบคุมได้เพราะแต่ละพื้นที่มีปัจจัยที่แตกต่างกัน ถึงแม้ประเทศไทยมีการออกนโยบายและมาตรการต่างๆ จากรัฐบาลเพื่อป้องกันและช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แต่ก็ยังประสบปัญหาภัยแล้งทุกปี ดังนั้นปัญหาภัยแล้งจึงเป็นหน้าที่ของทุกภาคส่วนต้องร่วมกันดูแลรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการพัฒนาประเทศต้องคํานึงถึงความสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจและทรัพยากรธรรมชาติเป็นหลัก รวมถึงการให้ความรู้สร้างความเข้าใจและสร้างจิตสํานึกให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลและอนุรักษ์ป่าต้นน้ำ

           การเพิ่มพื้นที่ป่าให้มีความสมบูรณ์เพื่อสร้างความสมดุลให้กับระบบนิเวศ พร้อมทั้งใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดเพื่อควบคุมการลักลอบตัดไม้ทําลายป่า สิ่งสําคัญคือทุกภาคส่วนต้องให้ความสําคัญและดําเนินการแก้ปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืน มิใช่บรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเฉพาะหน้าเป็นครั้งคราวหรือรณรงค์ให้ความสําคัญเฉพาะวันที่ 17 มิถุนายนของทุกปีเท่านั้น

ที่มา : https://shorturl.asia/TvDp6

 

ตอบคำถามชิงรางวัล >>คลิ๊ก<<

 

-----------------------------------------------
📣"เรียนเชิญติดตามข่าวสารจากสำนักฯ ตามช่องทางต่าง ๆ ดังนี้"
🚩Facebook: https://www.facebook.com/LibArit
🚩www : http://arit.pbru.ac.th
🚩Line Official : https://lin.ee/E5dxAa3
------------------------------------------------


© Copyright 2024 | สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี

Site Map | Privacy Policy